อาการปวดหลังนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแต่กับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกช่วงวัยเลยก็ว่าได้ แต่ที่พบบ่อยที่สุดก็คือช่วงของวัยทำงาน เพราะว่าในช่วงวัยนี้เป็นวัยที่ต้องออกไปทำงานข้างนอกบ้าน และไม่พ้นการนั่งทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ รวมไปถึงการแบกหามของหนักๆ การทำงานบ้าน หรืออาจจะเกิดจากอุบัติเหตุ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนก่อให้เกิด อาการปวดหลัง โดยตรงเลยค่ะ วันนี้ nationalhealcare.com จึงจะมาแนะนำ 5 ท่าโยคะแก้อาการปวดหลัง มาให้ทุกคนได้ทราบกันเลยค่ะ และสามารถทำได้เองง่ายๆ ที่บ้าน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะว่าจะมีท่าไหนบ้าง
5 ท่าโยคะแก้อาการปวดหลัง
1.Downward-Facing Dog -ท่าสุนัขยืนลง
สำหรับท่านี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนของต้นขา น่องขา เอ็นร้อยหวาย ของคุณนั้นยืด และยังช่วยให้ลดอาการปวดหลัง และปวดหัวอีกด้วย รวมไปถึงการป้องกันโรคกระดูกพรุนอีกด้วย แต่จะไม่เหมาะสำหรับคนที่มีอาการเส้นประสาท หรือเส้นประสาทถูกดทับ อีกทั้งคนที่มีการตั้งครรภ์
วิธีฝึกท่าสุนัขยืนลง
1. หายใจเข้า คุกเข่า เข่าอยู่ในระดับเดียวกับสะโพก ระดับมืออยู่เหนือไหล่เล็กน้อย นิ้วมือขนานกับลำตัว
2. ขณะที่หายใจออก ให้ยกเข่าขึ้นพ้นจากพื้น ยกก้นให้สูงขึ้นอาจจะรู้สึกตึงบริเวณน่อง
3. วางส้นเท้าลงบนพื้น เหยียดเข่าให้ตรง จะรู้สึกตึงบริเวณน่องมากขึ้น
4. ให้ค้างท่านี้ไว้ 1-3 นาที ทำซ้ำประมาณ 3 เซต
2. Child’s Pose – ท่าเด็กหมอบ
และสำหรับท่าต่อมานะคะ เป็นท่าที่ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อส่วนหลัง คอ สะโพก ต้นขา รวมไปถึงข้อเท่าด้วย จะไม่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาในเรื่องของข้อเข่า และคนที่ตั้งครรภ์
วิธีฝึกท่าเด็กหมอบ
1.คุกเข่าเท้าชิด นั่งลงบนส้นเท้าตัวเอง
2.ขณะหายใจออกก้มตัว วางหน้าผากลงบนพื้น คอตรงไม่เอียงคอไปข้างหนึ่งข้างใด ก้นอยู่บนส้นเท้า
3.เหยียดแขนทั้งสองไปพนมมือเหนือศีรษะ คืบนิ้วไปให้ไกลที่สุด แล้วกดฝ่ามือทั้งสองให้แนบกับพื้น
4.ค้างท่านี้ไว้ 30 วินาทีหรือมากกว่า
5.จากนั้นค่อย ๆ ดันตัวขึ้นมาอยู่ในท่าเริ่มต้น
3. Extended Triangle Pose – ท่าตรีโกณหมุนกลับ
ในส่วนของท่านี้นะคะจะช่วยให้กล้ามเนื้อ สะโพก ขา และหลัง นั้นยืด และยังช่วยลดอาการปวดหลังอีกด้วย รวมไปถึงช่วยปรับสมดุลในร่างกาย แต่จะไม่เหมาะสำหรับคนที่มีอาการปวดหัว ความดันต่ำ
วิธีฝึกท่าท่าตรีโกณหมุนกลับ
1.กางขาออกให้เท่ากับช่วงไหล่ หายใจออกช้าๆพร้อมกับแยกเท้าออก 3-4 ฟุต ยกแขนขึ้น และกางแขนออกขนานกับไหล่ คว่ำฝ่ามือ
2.หมุนเท้าขวาชี้ไปทางขวาทำมุม 90 องศาจากแนวเดิม เฉียงเท้าซ้ายไปทางขวา 40-60 องศา เข่าทั้งสองตึง
3.ก้มตัวลงพร้อมกับบิดเอวมาทางขวา วางมือซ้ายที่ด้านนอกของตาตุ่มขวา
4.เหยียดแขนขวาชี้ขึ้น แนวแขนซ้ายและแขนขวาอยู่ในแนวเดียวกัน ตามองไปทางมือขวา
5.ค้างท่านี้ไว้ 30 วินาทีถึง 1 นาที คลายท่าโดยการยืนกลับท่าเดิม
6.สลับข้าง ทำซ้ำท่าเดิม
4. Cow Face Pose – ท่าหน้าวัว
สำหรับท่านี้จะสามารถช่วยให้กล้ามเนื้อแขน ไหล่ หลัง และหน้าท้อง นั้นก็ยืดขึ้น และยังช่วยลดอาการปวดต้นคอ รวมไปถึงอาการปวดหลังด้วย ไม่เหมาะสำหรับคนที่ปัญหาในช่วงของบริเวณคอ
วิธีฝึกท่าหน้าวัว
1.นั่งในท่าคลาน ฝ่ามือ หัวเข่าและหลังเท้าติดพื้น
2.ยกขาซ้ายสอดเข่าซ้าย ไปด้านหลังเข่าขวา แยกเท้าทั้งสองให้กว้าง แล้วหย่อนก้น นั่งระหว่างเท้าทั้ง สองข้าง
3.นั่งในท่าเท้าไขว้ เท้าขวาทับบนเท้าซ้าย โดยให้ส้นเท้าขวา ใกล้สะโพกซ้ายมากที่สุดและส้นเท้าวาง บนพื้น ส่วนเท้าซ้ายก็ให้วางใกล้สะโพกมากที่สุด
4.ให้เข่าซ้ายวางบนพื้น
5.ขณะหายใจเข้าให้ยกมือขวาเอื้อมไปจับกับมือซ้าย
6.ค้างท่านี้ให้นานเท่าที่ลมหายใจเข้า เมื่อเริ่มหายใจออกก็เปลี่ยนท่าสลับข้าง
5. Standing Forward Bend – ท่ายืนก้มตัว
มาถึงท่าสุดท้ายกันแล้วนะคะ สำหรับท่านี้จะช่วยลดอาการปวดหลังด้วยตนเองแบบง่ายๆ จะยังช่วยลดความเครียดอีกต่างหาก รวมไปถึงอาการซึมเศร้า และทำช่วยให้กล้ามเนื้อต้นขามีความยืดหยุ่นอีกด้วย ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีโรคกระดูกหลัง และเข่า
วิธีฝึกท่ายืนก้มตัว
1.ยืนตรงเท้าชิดกัน ส้นเท้าและฝ่าเท้าแยกกันเท่าช่วงไหล่
2.ขณะหายใจออกให้ก้มตัวลง โดยใช้จุดหมุนที่ข้อสะโพก ปลายนิ้วมือ หรือฝ่ามือจรดพื้นตรงหน้านิ้วเท้า หรืออาจจะวางฝ่า3.มือไว้ตรงหลังเท้า
4.เมื่อหายใจเข้าให้ก้มหน้าให้มากที่สุด เมื่อหายใจออกให้คลายท่าเล็กน้อย
5.ค้างท่านี้ไว้ 30 วินาทีถึง 1 นาที
6.คลายท่า วิธีการให้ยกมือขึ้นจากพื้น วางมือไว้บริเวณสะโพกก่อนแล้วย่อตัวลงนั่งหายใจเข้าพร้อมกับลุกขึ้นยืน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ 5 ท่าโยคะแก้อาการปวดหลัง ท่าเหล่านี้คุณสามารถทำเองได้อย่างง่ายๆ เลยที่บ้าน ไม่ยุ่งยาก แถมยังทำให้อาการปวดหลังของคุณนั้นลดลงด้วย เหมาะสมสำหรับทุกช่วงวัยเลย และยังให้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อของคุณให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เป็นการจัดระเบียงร่างกายให้สมดุล อย่าลืมไปฝึกท่าเหล่านี้กันนะคะ
แนะนำ 5 Gaming Mouse สายเกมมิ่งไม่ควรพลาด
ปัจจุบันการเล่นเกมเป็นสิ่งที่คนนิยมเล่นกันอย่างมาก และก็จริงจังกันจนกลายเป็นกีฬา E-Sport มีการจัดแข่งขันกันหลากหลายเกมในออนไลน์ จนทำให้มีเกมมิ่งเกิดขึ้นมาเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอุปกรณ์ยอดนิยมที่จะขาดไปไม่ได้เลยนั่นก็คือ เมาส์เกมมิ่ง เนื่องจากสามารถปรับตั้งค่ามาโครหรือเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ ในการใช้งานได้อย่างหลากหลาย จึงได้รับนิยมจากเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลก จึงจะมาแนะนำ 5 Gaming Mouse สายเกมมิ่งไม่ควรพลาด ไปดูเลยว่าจะมีรุ่นไหนบ้าง
